ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) เป็นประเทศในเอเชียที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจสู่การเป็นอุตสาหกรรมใหม่ตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ 1980 และก้าวสู่การเป็นประเทศอุตสาหกรรม เมื่อได้รับการยอมรับเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว (OECD) ในปี 1996 ต่อมาเกาหลีใต้ได้ประสบวิกฤติทางเศรษฐกิจในปี 1997 จนต้องกู้ยืมเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งก็เป็นช่วงเดียวกับที่ไทยและประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชียต้องประสบวิกฤติเศรษฐกิจและการเงินเช่นเดียวกัน แต่เกาหลีใต้ก็สามารถแก้ปัญหา/ฟื้นฟูเศรษฐกิจและคืนเงินกู้ทั้งหมดให้แก่ IMF งวดสุดท้ายได้ เมื่อปลายปี 2001 เป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างเร็วในการฟื้นตัวเมื่อเทียบกับประเทศอื่น วิธีการ/กลไกที่เกาหลีใต้ใช้ในการแก้ไข/จัดการกับวิกฤตดังกล่าว จึงเป็นประเด็นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง และสามารถนำมาปรับใช้เป็นแนวทางในการจัดการปัญหาภาคการเงินของประเทศไทยได้ โดยเฉพาะปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ NPL (Non Performing Loen) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศในช่วงปี พ.ศ.2540 มีความรุนแรงขึ้น และปัจจุบันปัญหานี้ก็ยังมิได้หมดไปจากระบบสถาบันการเงินไทย
สาเหตุของการเกิดวิกฤติ
ปัจจัยที่นำไปสู่การเกิดวิกฤติภาคการเงินของเกาหลีใต้ พบว่ามีความคล้ายคลึงกับกรณีของประเทศไทยในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี พ.ศ. 2540 คือเกิดจากความอ่อนแอเชิงโครงสร้าง สถาบันการเงินมีการกู้ยืมมากเกินไป มีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของหนี้ภาคธุรกิจและหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ภาคเอกชายมีการขยายกิจการโดยประมาทและขาดจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจอีกทั้งกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่แชโบล ( Chaebol ) มีการพึ่งพาเงินกู้อย่างไร้ขีดจำกัด
ในส่วนของภาครัฐก็มีการจัดการด้านเงินตราต่างประเทศที่ไม่ดีพอ คือ มีการกู้เงินระยะสั้นมาลงทุนระยะยาว (Mismatch between reserves & liabilities) โดยที่ประมาณร้อยละ 60 เป็นการกู้ระยะสั้นจากแหล่งเงินต่างประเทศ และยังมีการดำเนินนโยบายอย่างไม่รอบคอบ คือการเปิดเสรีทางการเงิน โดยที่ยังขาดความพร้อมในด้านต่างๆ เช่น ขาดระบบการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพ และขาดการปฏิบัติภาคการเงินเพื่อรองรับ
สาเหตุของการเกิดวิกฤติ
ปัจจัยที่นำไปสู่การเกิดวิกฤติภาคการเงินของเกาหลีใต้ พบว่ามีความคล้ายคลึงกับกรณีของประเทศไทยในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี พ.ศ. 2540 คือเกิดจากความอ่อนแอเชิงโครงสร้าง สถาบันการเงินมีการกู้ยืมมากเกินไป มีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของหนี้ภาคธุรกิจและหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ภาคเอกชายมีการขยายกิจการโดยประมาทและขาดจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจอีกทั้งกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่แชโบล ( Chaebol ) มีการพึ่งพาเงินกู้อย่างไร้ขีดจำกัด
ในส่วนของภาครัฐก็มีการจัดการด้านเงินตราต่างประเทศที่ไม่ดีพอ คือ มีการกู้เงินระยะสั้นมาลงทุนระยะยาว (Mismatch between reserves & liabilities) โดยที่ประมาณร้อยละ 60 เป็นการกู้ระยะสั้นจากแหล่งเงินต่างประเทศ และยังมีการดำเนินนโยบายอย่างไม่รอบคอบ คือการเปิดเสรีทางการเงิน โดยที่ยังขาดความพร้อมในด้านต่างๆ เช่น ขาดระบบการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพ และขาดการปฏิบัติภาคการเงินเพื่อรองรับ
รัฐบาลเข้ามามีบทบาทอย่างไรในการแก้ปัญหา?
จากปัจจัยหลักข้างต้น ทำให้ภาคเศรษฐกิจการเงินของเกาหลีใต้ได้รับผลกระทบอย่างมาก หน่วยงานของภาครัฐที่มีบทบาทอย่างมากมรการแก้ปัญหาวิกฤติ และฟื้นฟูเศรษฐกิจของปีระเทศ คือ KAMCO หรือชื่อเต็มว่า Korea Asset Management Corporation ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1962 ภายใต้ Korea Development Bank ทำหน้าที่ในการจัดการสินทรัพย์ที่มีปัญหา แต่ในช่วงที่เกาหลีใต้ประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจในปี 1997 KAMCO ได้ปรับบทบาทไปเน้นหนักด้านการจัดการ NPL/NPA (Non performing Loen / Non Performing Asset) ของสถาบันการเงิน และ NPA Fund บทบาทด้านนี้สิ้นสุดลงในปี 2002 หลังจากที่เศรษฐกิจฟื้นตัว และสามารถใช้คืนเงินกู้ทั้งหมดให้แก่ IMF ได้ หลังจากนั้น KAMCO ทำหน้าที่ในการรับซื้อ NPL ด้วยบัญชีของตัวเอง นอกจากนี้ KAMCO ยังมีบทบาทในการดำเนินการเพื่อฟื้นฟูธุรกิจ/กิจการ และสนับสนุนการฟื้นตัวของลูกหนี้รายบุคคล (Individual Debt) โดยเฉพาะลูกหนี้บัตรเครดิต ซึ่งถือเป็นสาเหตุหลักของการเป็นหนี้รายบุคคลในเกาหลีใต้ เพราะประชาชนมีการใช้บัตรเครดิตกันอย่างเกินตัว ไม่เว้นแม้แต่เด็กที่อยู่ในวัยเรียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น